การประชุมหารือด้านการกงสุลไทย – สาธารณรัฐประชาชนจีน ครั้งที่ ๗ ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน

การประชุมหารือด้านการกงสุลไทย – สาธารณรัฐประชาชนจีน ครั้งที่ ๗ ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน

วันที่นำเข้าข้อมูล 12 ม.ค. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 12 พ.ย. 2565

| 772 view
เมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๒ นายสรยุทธ ชาสมบัติ รองอธิบดีกรมการกงสุล และนายจาง หยาง รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศจีน เป็นประธานร่วมการประชุมหารือด้านการกงสุลไทย – สาธารณรัฐประชาชนจีน ครั้งที่ ๗ (The Seventh Round of the Consular Consultation between Thailand and the People’s Republic of China) ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีผู้แทนจากส่วนราชการอื่นของไทยและจีนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ได้แก่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และสำนักงานการต่างประเทศ นครเซี่ยงไฮ้ 
 
การประชุมดังกล่าวเป็นกรอบความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านการกงสุลของทั้งสองประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการกงสุลซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินความสัมพันธ์ในฐานะหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน 
 
ทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดการประเด็นด้านการกงสุลร่วมกันอย่างฉันท์มิตร เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชนระหว่างสองประเทศให้เป็นไปอย่างราบรื่น บนพื้นฐานของผลประโยชน์ของประชาชน ซึ่งรวมถึงการคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในจีนและคนจีนในไทย มาตรการส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว การอำนวยความสะดวกในการตรวจลงตราและคนเข้าเมือง และการแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติด้านการรับรองนิติกรณ์เอกสาร
 
ฝ่ายจีนได้ขอบคุณและชื่นชมมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของฝ่ายไทยที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาประเทศไทยมากกว่าปีละ ๑๐ ล้านคน รวมถึงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศที่มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ฝ่ายจีนจะจัดให้ไทยเป็นประเทศลำดับต้นในการพิจารณาอำนวยความสะดวกด้านการตรวจลงตราในการเดินทางไปท่องเที่ยวในจีนด้วย เพื่อให้คนไทยสามารถเดินทางเข้าประเทศจีนได้สะดวกมากยิ่งขึ้นเช่นกัน
 
ในโอกาสนี้ ฝ่ายไทยยังได้ประชาสัมพันธ์ระบบการตรวจลงตราทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-visa) ซึ่งได้เริ่มทดลองใช้ในสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ในจีนจำนวน ๖ แห่ง และอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบในสถานกงสุลใหญ่ในจีนอีก ๓ แห่ง ซึ่งจะช่วยทำให้การตรวจลงตราชาวจีนเป็นไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งฝ่ายจีนได้กล่าวชื่มชมพัฒนาการของไทยในเรื่องนี้ด้วย