เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2556  นายพลเดช วรฉัตร เอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ เดินทางไปร่วมงานพิธีเปิดงานนมัสการพระธาตุที่วัดศรีสุพุทธิมหาวิหาร (Sri Subhuti Maha Viharaya) เมืองวาสกาดูวา (Waskuduwa) และในโอกาสดังกล่าวนายมาฮินดา ราชปักษา ประธานาธิบดีศรีลังกาได้ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีดังกล่าว

พระธาตุที่ทางวัดศรีสุพุทธิมหาวิหารนำมาจัดแสดงให้พุทธศานิกชนทั่วไปมนัสการในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของพระธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งค้นพบโดย Sir Alexander Cunningham ที่เมืองกบิลพัสดุ์ ประเทศอินเดียเมื่อปี พ.ศ. 2441 การค้นพบพระธาตุครั้งนี้มิอาจประสบความสำเร็จได้ หากปราศจากความช่วยเหลือของพระราชครู วาสกาดูเว ศรี สุพุทธิ เถโร (Venerable Rajaguru Waskaduwe Sri Subhuti Thero) เจ้าอาวาสวัดศรีสุพุทธิมหาวิหารในขณะนั้น ที่ช่วยแปลคำจารึกโบราณบนกล่องบรรจุพระธาตุ จนทำให้คณะสำรวจทราบแน่ชัดว่า พระธาตุดังกล่าวเป็นพระธาตุของพระพุทธเจ้า และเพื่อตอบแทนพระคุณของพระราชครูฯ คณะสำรวจจึงได้มอบพระธาตุส่วนหนึ่งให้แก่พระราชครูฯ ซึ่งตกทอดเป็นสมบัติของวัดจนถึงปัจจุบัน

พระธาตุนี้เป็นพระธาตุกลุ่มเดียวกับพระธาตุที่พระบรมบรรพต (ภูเขาทอง) วัดสระเกศ กรุงเทพฯ พระธาตุที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินเดีย ณ กรุงนิวเดลี และพระธาตุที่พระ Shasthrapathi Waskaduwe Mahindawansa Maha Nakaya Thero เจ้าอาวาสวัดศรีสุพุทธิมหาวิหารทูลเกล้าฯ ถวายแด่สมเด็จพระบรมโอรสธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารเมื่อปี พ.ศ. 2543

ระหว่างการจัดงานนมัสการพระธาตุดังกล่าวเมื่อวันที่ 25-27 มกราคม 2556 ปรากฏว่ามีพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศหลั่งไหลมานมัสการพระธาตุจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 400,000 คนภายใน เวลาเพียง 3 วัน

อนึ่ง วัดศรีสุพุทธิมหาวิหารมีความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ไทยอย่างใกล้ชิด เนื่องจากพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ได้อุปสมบทเป็นพระชินวรวงศ์ที่วัดดังกล่าว โดยมีพระราชครู วาสกาดูเวศรี สุพุทธิ เถโรเป็นพระอุปัชฌาย์ และจากการอุปสมบทพระราชวงศ์ชาวไทยทำให้พระอุปัชฌาย์ได้รับตำแแหน่งพระราชครู และเป็นพระศรีลังกาเพียงองค์แรกและองค์เดียวในประวัติศาสตร์ที่ได้รับตำแหน่งพระราชครู