เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2557 นายสุชาติ เลียงแสงทอง กงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง พร้อมด้วยภรรยา และเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้พบปะสนทนากับผู้บริหารของมหาวิทยาลัยยูนนานนอร์มอล (Yunnan Normal University) ได้แก่ นาย Yang Lin อธิการบดี นาย Wu Youde คณบดี คณะ International Chinese Studies และนาง Ma Na ผู้อำนวยการแผนกความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ

     มหาวิทยาลัยยูนนานนอร์มอลมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ก่อตั้งขึ้นในช่วงที่เกิดสงครามต่อต้านญี่ปุ่นในจีน โดยในปี พ.ศ. 2481 มหาวิทยาลัยทางภาคเหนือของจีนที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม ได้ย้ายลงมาตั้งมหาวิทยาลัยร่วมแห่งใหม่ในนครคุนหมิง โดยเรียกชื่อว่า National Southwest Associated University (NSAU)  ต่อมา เมื่อสงครามสงบ มหาวิทยาลัยทางภาคเหนือดังกล่าวได้ย้ายกลับไปยังที่ตั้งเดิม จึงได้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยแห่งใหม่ ณ สถานที่ตั้งเดิมของ NSAU และเรียกชื่อว่า มหาวิทยาลัยยูนนานนอร์มอล ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยแห่งนี้ มีนักศึกษาไทยมากที่สุดในมณฑลยูนนาน ประมาณ 300 กว่าคน

     นอกจากนี้ ยังมีนักเรียนระดับมัธยมศึกษาและนักศึกษาไทย ที่มาอบรมหรือศึกษาในโครงการแลกเปลี่ยนระยะสั้น อีกเป็นจำนวนมาก รวมจำนวนนักเรียนนักศึกษาไทยทุกประเภท เฉลี่ย 1,000 คน ต่อปี และด้วยความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์ระหว่างไทยกับยูนนาน มหาวิทยาลัยยูนนานนอร์มอล ได้ตกลงความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมกับมหาวิทยาลัยของไทยกว่า 10 แห่ง โดยทุกๆ ปี ทางมหาวิทยาลัยจะส่งนักศึกษาจีนไปเรียนวิชาภาษาไทย บริหารธุรกิจ การท่องเที่ยว เศรษฐศาสตร์และการเงิน ที่มหาวิทยาลัยของไทย อาทิ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มหาวิทยาลัยบูรพา ฯลฯ โดยเฉพาะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่กับมหาวิทยาลัยยูนนานนอร์มอลนั้น ได้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้บริหารระหว่างกันเป็นประจำทุกปี

     ที่ผ่านมา สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยยูนนานนอร์มอล ในการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม อาทิ เทศกาลลอยกระทง งานสงกรานต์ประจำปี ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สถานกงสุลใหญ่ฯ ให้ความสำคัญ เพราะเป็นการใช้วัฒนธรรมเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษาชาวไทยกับนักศึกษาชาวจีน รวมทั้ง นักศึกษาชาติอื่นๆ ซึ่งจะนำมาสู่ความเข้าใจและความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ และโดยที่ประเทศไทยและประเทศจีนมีความใกล้ชิดดุจครอบครัวเดียวกัน กงสุลใหญ่สุชาติฯ ได้ขอให้ทางมหาวิทยาลัยช่วยดูแลเอาใจใส่นักศึกษาไทยประดุจลูกหลาน ด้วย