กระทรวงการต่างประเทศสนับสนุนสมาคมกอรีแห่งประเทศไทยในอุปถัมภ์จุฬาราชมนตรี นำนักกอรีตัวแทนประเทศไทยไปเข้าร่วมการทดสอบการท่องจำคัมภีร์อัลกุรอานและท่องจำฮาดิษสำหรับประเทศในอาเซียนและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ณ กรุงจาการ์ตา ระหว่างวันที่ ๑๑– ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗

กระทรวงการต่างประเทศสนับสนุนสมาคมกอรีแห่งประเทศไทยในอุปถัมภ์จุฬาราชมนตรี นำนักกอรีตัวแทนประเทศไทยไปเข้าร่วมการทดสอบการท่องจำคัมภีร์อัลกุรอานและท่องจำฮาดิษสำหรับประเทศในอาเซียนและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ณ กรุงจาการ์ตา ระหว่างวันที่ ๑๑– ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗

วันที่นำเข้าข้อมูล 11 ก.พ. 2557

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 5 พ.ย. 2562

| 1,884 view

เมื่อวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงการนำนักกอรีตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการทดสอบการท่องจำคัมภีร์อัลกุรอานและท่องจำฮาดิษสำหรับประเทศไทยในอาเซียนและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่ากระทรวงศาสนกิจของอินโดนีเซียร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียประจำอินโดนีเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดการทดสอบการท่องจำคัมภีร์อัลกุรอานและท่องจำฮาดิษ (การท่องจำคำสอนและการปฏิบัติของศาสดา) สำหรับประเทศในอาเซียนและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่กรุงจาการ์ตา ระหว่างวันที่
๑๑ – ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ โดยกระทรวงการต่างประเทศสนับสนุนสมาคมกอรีแห่งประเทศไทย ในอุปถัมภ์จุฬาราชมนตรี นำนักกอรีตัวแทนประเทศไทยจำนวน ๑๐ คน เดินทางไปเข้าร่วมการทดสอบดังกล่าว ในโอกาสนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ  กรุงจาการ์ตา จะจัดให้คณะได้พบปะกับนักเรียนไทยในอินโดนีเซีย เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านการศึกษา ตลอดจนสังเกตการณ์สภาพความเป็นอยู่ของนักเรียน รวมทั้งเชิญชวนให้นักเรียนไทยในอินโดนีเซียไปร่วมให้กำลังใจผู้แทนไทยในการทดสอบฯ

ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้ให้การสนับสนุนสมาคมกอรีแห่งประเทศไทยในอุปถัมภ์จุฬาราชมนตรี ซึ่งเป็นองค์กรอย่างเป็นทางการของประเทศไทยในด้านศาสตร์การอ่านคัมภีร์อัลกุรอานแบบทำนองเสนาะ (กอรี) และการท่องจำคัมภีร์อัลกุรอาน (ฮาฟีซ) ในการคัดเลือก ฝึกอบรม และนำนักกอรีตัวแทนประเทศไทยไปเข้าร่วมการแข่งขันในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี ๒๕๔๙ เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่สะท้อนความเป็นอยู่และ วิถีชีวิตของผู้คนในสังคม อีกทั้งช่วยสร้างโอกาสให้นักกอรีไทยได้แสดงความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์ต่อประชาคมโลกมุสลิม เพิ่มพูนประสบการณ์ และสร้างเครือข่ายกับวงการกอรีสากล นับเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชน โดยเฉพาะในประเทศเพื่อนบ้านมุสลิมของไทย และยังช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ของไทยในการให้สิทธิเสรีภาพทางศาสนาที่เท่าเทียมกันตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญอีกด้วย