ที่ ๕๑/๒๕๕๗

เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๗ คุณจันทนี ธนรักษ์ รองราชเลขาธิการ ได้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเยาวชนจิตอาสาเพื่อเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ รุ่นที่ ๒ ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีหม่อมหลวงจิรพันธุ์ ทวีวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และนายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศเข้าร่วมในพิธี

รองราชเลขาธิการได้ให้โอวาทแก่เยาวชนจิตอาสาทั้งจากในประเทศและต่างประเทศที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน ๔๐ คนจากผู้สมัคร ๒๙๗ คน โดยได้กล่าวถึงพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการแก้ไขปัญหาของชุมชุนโดยใช้หลักการ ”เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา”  ส่วนอธิบดีกรมสารนิเทศได้กล่าวถึงมุมมองของชาวต่างชาติต่อโครงการตามแนวพระราชดำริ ซึ่งได้รับการยอมรับและเป็นที่ชื่นชมทั่วโลก รวมทั้งได้ถูกนำไปปฏิบัติแล้วในหลายประเทศ นอกจากนี้ ได้ขอให้เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ เป็นยุวทูตนำองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริไปเผยแพร่ต่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ

สำนักราชเลขาธิการได้ริเริ่มโครงการเยาวชนจิตอาสาเพื่อเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริเมื่อปี ๒๕๕๖ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรตลอดระยะเวลา ๖๗ ปีที่ทรงครองสิริราชสมบัติ พระองค์ทรงวางรากฐานชีวิตความเป็นอยู่ และพัฒนาอาชีพของราษฎรผ่านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า ๔,๐๐๐ โครงการทั่วประเทศ เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ จะมีโอกาสได้เรียนรู้หลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผ่านการปฏิบัติงานจริงและการใช้ชีวิตในชุมชนที่มีวิถีชีวิตตามแนวพระราชดำริ เพื่อนำสิ่งที่เรียนรู้ไปเผยแพร่สู่สาธารณชนต่อไป

โครงการเยาวชนจิตอาสาเพื่อเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ รุ่นที่ ๒ จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๗ มีนาคม - ๖ เมษายน ๒๕๕๗ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้สนับสนุนการดำเนินโครงการฯ โดย (๑) ประชาสัมพันธ์โครงการฯ และเชิญชวนผู้สมัครจาก ๕ ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เข้าร่วมในงาน และ (๒) ร่วมคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการฯ โดยผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นเยาวชนเชื้อสายไทยจากสหรัฐอเมริกา ๑ คน เยาวชนนิวซีแลนด์ ๑ คน และเยาวชนออสเตรเลีย ๑ คน ส่วนที่เหลืออีก ๓๗ คนเป็นเยาวชนไทยที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ จากภายในประเทศ ทั้งนี้ สำนักราชเลขาธิการมีแผนจะดำเนินโครงการฯ อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ๆ ละ ๒ ครั้ง