สถานการณ์การสู้รบและการให้ความช่วยเหลือคนไทยในเยเมน ฉบับที่ ๓

สถานการณ์การสู้รบและการให้ความช่วยเหลือคนไทยในเยเมน ฉบับที่ ๓

วันที่นำเข้าข้อมูล 30 มี.ค. 2558

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 5 พ.ย. 2562

| 1,378 view

ตามที่เกิดสถานการณ์สู้รบในเยเมนขึ้นในห้วงเวลานี้ และสถานการณ์มีแนวโน้มที่รุนแรงขึ้น จนทำให้หลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยได้เตรียมการอพยพพลเมืองของตนออกจากเยเมน นั้น

กระทรวงการต่างประเทศขอแจ้ง ดังนี้

          ๑.  ขณะนี้มีคนไทยอาศัยอยู่ในเยเมนซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา จำนวน ๑๙๓ คน โดยกระจายกันอยู่ตามเมืองต่าง ๆ ได้แก่ เมืองตารีม มูคอลลา เฮาเต๊าะ เอเดน ฮุดัยดะห์ บินฮุเดดะห์ และซาน่า มีคนไทยสมัครใจจะอพยพออกจากเมืองซาน่า ๒ คน ซึ่งจะอพยพโดยอาศัยความร่วมมือจากมิตรประเทศ นอกจากนี้ อีก ๔ คน แสดงความจำนงที่จะอพยพกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมัสกัต และ ๑๘๗ คนที่เหลือยังไม่แสดงความประสงค์ที่จะอพยพ อาศัยอยู่ห่างไกลจากพื้นที่สู้รบ

          ๒.  กระทรวงต่างประเทศได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจเพื่อสั่งการ โดย

                ๒.๑ กรมการกงสุล จัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจเพื่อการช่วยเหลือและอพยพคนไทยในเยเมนขึ้นมาตั้งแต่วันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๘ โดยมีการติดตามสถานการณ์ข่าว ประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตฯ รวมทั้งญาติของคนไทยในเยเมน อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ศูนย์เฉพาะกิจมีหน้าที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ  ได้ให้ยกสถานะเป็นศูนย์ประจำกระทรวงฯ เพื่อให้บูรณาการความช่วยเหลือแบบเบ็ดเสร็จ

               ๒.๒  สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมัสกัต เป็นหน่วยปฏิบัติการส่วนหน้า โดยจัดชุดปฏิบัติงานตั้งที่ใกล้ชายแดนโอมาน-เยเมน และเมืองในเยเมนที่เป็นจุดรวมตัวนักศึกษา นอกจากนั้น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด ทำหน้าที่หน่วยสนับสนุน โดยได้มีการดำเนินงานแล้ว ดังนี้

  • รายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่องและได้เตือนให้คนไทยระวังอันตรายจากสถานการณ์สู้รบ โดยที่ประเทศไทยไม่มีสถานเอกอัครราชทูตในเยเมน กระทรวงการต่างประเทศได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตของไทยในอาเซียนและในกลุ่ม Gulf States เพื่อขอความร่วมมือประเทศเหล่านี้ให้ช่วยเหลือคนไทย 
  • หากสถานการณ์ลุกลามและไม่น่าไว้วางใจ กระทรวงการต่างประเทศจะประสานกับคนไทยในเยเมนและแนะนำให้อพยพออกเพื่อความปลอดภัย ส่วนช่องการอพยพ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เตรียมแผนอพยพคนไทยออกจากเยเมนไปยังชายแดนโอมานโดยใช้ทางบกเป็นหลัก ส่วนการเคลื่อนย้ายทางอากาศ ต้องมีการพิจารณาเส้นทางและสนามบินตามความเหมาะสมโดยคำนึงถึงความปลอดภัย

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยถึงความเป็นอยู่ของคนไทยในเยเมนและกำชับให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการช่วยเหลือคนไทยให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย